สำหรับทริปในการเดินทางครั้งนี้ เราเริ่มต้นกันตั้งแต่วันพุธที่ 26 กพ ขับรถเข้ากรุงเทพฯ ออกบ่าย 3 ถึง 3 ทุ่ม เหอะๆ ก็เล่นขนของซะเต็มหลังรถ แถมเดินทางกัน 4 คน เข้าบางกอกทำธุรกรรมส่วนตัว และส่วนรวม (ครอบครัว) มีไปเที่ยวบ้างที่อัมพวา ไปเก็บเกี่ยวบรรยากาศ รวมถึงแวะดูพิพิธพรรณหุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ ที่ชั้น 6 สยาม ดิสคอฟเวอรี่ สุดท้ายสิ่งสำคัญ ดูบอลถ้วย ก. ประจำปี 2554 ที่สนามศุภฯ
เริ่มต้นเดินทางตั้งแต่วันพุธที่ 26 มีนาคม 2554 ออกจากขอนแก่นประมาณบ่ายสามโมง ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ไปเรื่อยๆ
แวะ Outlet ที่โคราชแป๊บหนึ่ง เดินเล่นๆ ไปเจอร้าน Adidas โอ้แม่เจ้า เสื้อท่าเรือ 2010 ทั้งสามสี ตรึมเลยครับ ไม่รู้เมื่อไหร่จะขายหมด เลยสอยไปฝากน้องตัวหนึ่ง แล้วเดินทางต่อไป ถึงนนทบุรีก็สามทุ่มกว่าๆ
เช้าวันพฤหัสฯ เริ่มต้นจากทำธุรกรรมเรื่องรถ เรื่องราเสร็จตั้งแต่ตอนเช้า พอตกค่ำก็เลยแวะไปนั่งเรือเล่นๆ เริ่มต้นจากท่าน้ำเมืองนนท์ ไปที่สะพานพุทธ
บ้านนอกเข้ากรุง ไม่อยากขับรถในเมือง เลยต้องให้คนบางคนขับให้นั่ง 55 เลยมีเวลาชักภาพเจ่าของ
มาถึงท่าน้ำเมืองนนท์ แล้ว
กำลังจะขึ้นเรือแล้ว เสียวนะเนี๊ย สำหรับคนว่ายน้ำไม่เป็นอย่างผม
ภาพบรรยากาศระหว่างนั่งเรือ ชมวิวข้างแม่น้ำเจ้าพระยา
ข้ามมาในวันศุกร์เลยล่ะกัน วันนี้นัดกับครอบครัว ไปเที่ยวอัมพวา สมุทรสงคราม กันสักหน่อย ก็ไปกัน 5 คน นั่งรถซะเมื่อยเลยทีเดียว ก็เล่นเริ่มต้นจากสนามบินน้ำ นนทบุรีไปรับน้องชายที่ อุทัย อยุธยา แล้ววิ่งตามวงแวนตะวันออก อ้อมไกลเลยครับ เพื่อไป 2สมุทร คือสาคร และสงคราม ระยะทางสี่ร้อยกว่ากิโล เหนื่อยจริงๆ แต่ก็สนุกสนานดี
ตอนกลับก็วิ่งกลับไปอยุธยา มาส่งน้องสาวที่รังสิต แล้วค่อยโค้งกลับนนทบุรี โหหหห เหนื่อยๆๆๆ แต่คุ้ม..
หล่อระยะไกลจริงๆ 55
หิวๆ หาข้าวกินกันดีกว่า มาถึงถิ่นปลาทู ก็ต้องกินน้ำพริกปลาทู
เก็บภาพเรือ่ยๆ
พอวันเสาร์ ก็เลยไม่อยากไปไหน ออกจากบ้านแถวสนามบินน้ำ นนทบุรี จอดรถไว้ที่ BTS จตุจักร ตีตั๋วรถไฟฟ้า ไปสนามกีฬา เป้าหมายของเราคือ เสื้อชลบุรี ที่ร้าน FBT หลังสนามศุภฯ ทีตอนนี้ลดราคา 50% เหลือตัวล่ะ 230 บาท เลยสอยมา 3 ตัว 3 สี งามขนาด แม้ไม่มีเฟล็กสปอนเซอร์ก็ตาม
พอซื้อเสื้อเสร็จ สบายใจแล้ว เลยเดินเล่นแถม MBK เค้ามีอั๊งเปาให้ ฮ่วย ได้ซื้อ 1 แถม 1 ตั๋วเข้าชม พิพิธพันธ์หุ่นขี้ผึ้ง ที่สยาม ดิสฯ แจ่มเลย
ไม่รอช้า เดินไปซื้อตั๋ว เข้าชมทันที ขอบอกว่าปวดขามากมาย แถมปวดหลังด้วย ก็เล่นเดินตั้งแต่บ่ายสองโมง ถึงบ่ายสี่โมง ไม่ได้นั่งไหนเลย แต่คุ้มครับ
นั่งแอ๊กท่า กับท่านประธานาธิปดีบารัค โอบามาและภรรยา
พี่เบ็คมองหน้าหาเรือ่งมาก
เคน ธีรเดชก็มา ไอ้เราเลยเป็นได้แค่ เคน ทีละบาท 55
พี่แอ๊ด มาเท่ห์ ไม่หยอก
กลับมาเรื่องไปดูบอลกันต่อ สำหรับการเดินทางไปดูบอลครั้งนี้ ผมได้รับน้ำใจจาก นายข้าวสุก เพื่อนในบอร์ด thailandsusu ชาวขอนแก่นด้วยกันเป็นธุระหาตั๋วเข้าชมให้ รวมถึงช่วยซื้อเสื้อเมืองทองติดเบอร์และอาร์ม ให้ในราคาต้นทุน
คืนวันเสาร์ กลับมานอนที่อยุธยาอีกครั้ง ตื่นเช้าขึ้นมาเลยต้องมีการเช็คสภาพล้อรถ ยานพาหนะของเราสักหน่อย เลยถอดล้อออกมาเช็คสภาพ ทำกันเองเลย
เราเริ่มออกเดินทางจากที่พัก อ อุทัย อยุธยา ตอนเที่ยงแวะดูสถานที่โบราณ รวมถึงวัดด้วยใช้เวลา นิดหน่อยในการแวะถ่ายรูป เก็บไว้ในความทรงจำ (เบ๋ย)
พอแวะหายเหนือ่ยแล้วก็เดินทางต่อเลยจากอยุธยาบ่ายโมงนิดๆ จนถึงจตุจักรก็เกือบบ่ายสอง
ขึ้นรถไฟฟ้าต่อเลย และมาถึงหน้าสนามตอนบ่ายสองโมงกว่าๆ ตอนนี้ยังระรื่นอยู่ เพราะเพิ่งมาถึง
ยังอารมณ์ดีกันทุกคน 55
สภาพตอนเกือบ 4 โมงเย็น นั่งรอตั๋วเกือบ 2 ชั่วโมงกว่า
เราได้ตั๋วประมาณเกือบสี่โมงเย็น บอลเริ่มแข่งไปนิดหน่อยกว่าจะเข้าสนามได้
พอเข้ามาในบริเวณสนาม ต้องรอเข้าคิวยาวอีกรอบ เพื่อตรวจบัตรและกระเป๋า
ยาวเชียวล่ะ
รีบเข้าสนามกันเลย เพราะบอลรู้สึกว่าจะเริ่มเตะไปแล้ว
พอเข้าสนามได้ ก็ละเลียดกับแสงแดดตลอด 90 นาทีเต็มที่มีการแข่งขัน ก็เริมแข่ง 4 โมงเย็นนิ อยากบอกว่า แดดร้อนมากกกก เพราะนั่งฝั่ง N, E หน้าก็เลยโดนแดดเต็มๆ
บ่ย่านดอก แค่หน้าดำซื่อๆ
.
[kkfc]bAE2yJdXVX4[/kkfc]
ครึ่งแรกก็ดูเรื่อยๆ เปื่อยๆ ไม่มันส์มากสักเท่าไหร่ หมดเวลาเดินออกไปหาอะไรกินสักหน่อย
สำหรับผลการแข่งขัน คงไม่ต้องกล่าวถึง ชลบุรีเล่นดีมาก แทบจะคุมเกมส์ในแดนกลางได้ทั้งหมด สมควรเป็นผู้ชนะจริงๆ
นักเตะเมืองทอง เรียงหน้ากระดานเข้ามาขอบคุณแฟนๆ ที่กำลังร้องเพลงเชียร์
สาวๆ แดดร้อนแค่ไหนก็บ่หยั่น เพราะตั้งใจมากดูแล้วนิ
จบการแข่งขัน กลางสนามก็มีพิธีมอบรางวัลกันไป ไอ้เราแฟนบอล ก็ไม่เสียเวลา ในการเก็บบันทึก ภาพตัวเอง ไปเรือ่ยๆ ก่อนกลับ
อีกมุมหนึ่งครับ แจ่มจริงๆ
ออกจากสนามศุภฯ เลยแวะเข้ามาชมบรรยากาศสนามเทพฯ บ้าง สนามหญ้าน่านอนมาก นุ่ม มันช่างแตกต่างจากสนามที่เราเคยสัมผัสจริงแฮะ
เดินทางกลับขอนแก่น ออกจากจตุจักรก็ประมาณ 4 ทุ่ม ต้องแวะนอนค้างที่ยุดยาส่คืนหนึ่งก่อน ตอนเช้ามืดสักตีห้า ก็เดินทางกลับขอนแก่น ระยะทางประมาณ 400 กม ใช้เวลา 4 ชั่วโมงถึง
สิ้นสุด Trip ที่ยาวนานครั้งนี้
by rana ธนันชนัย อุ่นสิม
Related posts:
Comments แสดงความคิดเห็น
Powered by Facebook Comments
